ประวัติสถานที่สำคัญในรั้วสิงห์ดำ

เนื่องในวันสถาปนาคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ “ครบรอบ 76 ปี” วันที่ 18 สิงหาคม 2567

จัดทำโดย สโมสรนิสิตคณะรัฐศาสตร์ 2567 (น้องๆ นิสิตปัจจุบัน รุ่น 74-77)

สวัสดีครับ พบกับรายการ VCK News จากฝ่ายวิชาการ สโมสรนิสิตรัฐศาสตร์

รายการนี้เป็นรายการสาระความรู้ที่จะนำเอาเหตุการณ์สำคัญในแต่ละเดือนมาถ่ายทอดเกร็ดความรู้คู่ความสนุกให้กับเพื่อน ๆ นิสิตคณะรัฐศาสตร์และทุกท่านที่ติดตามฝ่ายวิชาการอยู่ และเนื่องจากวันนี้เป็น “วันสถาปนาคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” ดังนั้นเราจึงขอประเดิมคอนเทนต์ด้วยเรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับคณะรัฐศาสตร์ นั่นก็คือ อาคารสถานที่ในคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งนอกจากสิ่งที่พวกเราควรจะรู้จักเกี่ยวกับอาคารเหล่านั้นแล้ว ก็ยังมีชื่อของอาคารที่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาคณะของเราตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเชื่อว่าอาจจะยังมีหลายคนที่ยังไม่รู้จัก หรือว่ารู้จักแบบผ่าน ๆ เพราะฉะนั้น เรามาร่วมทำความรู้จักกับอาคารสถานที่ในคณะกันเถอะ!

Checkpoint 1 : อาคารเกษม อุทยานิน (ตึก 3)

สำหรับหมุดหมายแรกที่เราจะพาไปรู้จักก็คือ อาคารเกษม อุทยานิน หรือที่เรามักเรียกกันว่าตึก 3 ซึ่งเป็นอาคารที่เพื่อน ๆ จะต้องรู้จักและใช้งานมันอยู่เป็นประจำเลยก็ว่าได้ เนื่องจากว่าเป็นอาคารเรียนสำหรับนิสิตในระดับปริญญาตรีทุกชั้นปี นับตั้งแต่เราก้าวเข้ามาเป็นนิสิตใหม่ในคณะจนกระทั่งจบออกไปเป็นบัณฑิตเต็มตัวนั่นเอง โดยสำหรับอาคารเกษม อุทยานินนี้ก่อสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2551 เพื่อใช้ทดแทนอาคารเกษม อุทยานินหลังเดิม และเพื่อฉลองครบรอบ 60 ปีของการก่อตั้งคณะรัฐศาสตร์ โดยอาคารแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของชีวิตนิสิตในคณะนี้เลยก็ว่าได้ เนื่องจากเพียบพร้อมไปด้วยสารพัดสถานที่ เช่น ห้องสมุด ห้องพักอาจารย์ ห้องเรียน ไปจนถึงฝ่ายกิจการนิสิตและสำนักงานของคณบดี นอกจากนี้ บริเวณชั้น 1 ยังมีร้านคาเฟ อเมซอนและ U-Store ไว้รองรับเพื่อน ๆ ที่ต้องการเครื่องดื่มเย็น ๆ หรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จะต้องใช้ในการเรียน

สำหรับชื่อของอาคารนี้มาจากชื่อของอาจารย์เกษม อุทยานิน อดีตคณบดีของคณะรัฐศาสตร์ในช่วงปีพ.ศ. 2511–2516 และเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาการปกครองด้วยครับ โดยในช่วงที่ท่านเป็นคณบดีของคณะรัฐศาสตร์ ท่านได้มีผลงานในการก่อตั้งภาควิชาและสถาบันต่าง ๆ ในคณะรัฐศาสตร์มากมาย เช่น ภาควิชานิติศาสตร์ (ต่อมาเป็นคณะนิติศาสตร์) ภาควิชาสื่อสารมวลชน (ต่อมาเป็นคณะนิเทศศาสตร์) ภาควิชาการคลัง (ต่อมาเป็นคณะเศรษฐศาสตร์) สถาบันประชากรศาสตร์ รวมไปถึงเป็นประธานสาขาสังคมวิทยาในสภาวิจัยแห่งชาติคนแรกอีกด้วย

Checkpoint 2 : ห้องประชุมเกษม สุวรรณกุล

ต่อจากตัวอาคารที่เราต้องใช้งานอยู่ทุกวัน ก็จะเป็นตัวของห้องและสถานที่สำคัญภายในอาคารกันบ้าง ซึ่งจุดแรกที่เราจะพาไปรู้จักในตัวอาคารเกษม อุทยานินก็คือ “ห้องประชุมเกษม สุวรรณกุล” ที่ชั้น 13 ซึ่งเป็นห้องที่เราใช้เรียนในรายวิชาบังคับ ของปี 1 เกือบทั้งหมด และรายวิชาบังคับของปี 2 อีกบางส่วนด้วย

สำหรับห้องประชุมนี้ได้ตั้งชื่อตามอาจารย์เกษม สุวรรณกุล ซึ่งเป็นอาจารย์จากคณะของเราเพียงหนึ่งเดียวที่เคยเป็นอธิการบดีของมหาวิทยาลัย และท่านยังเคยดำรงตำแหน่งสำคัญทางการศึกษาและทางการเมืองอีกหลายตำแหน่ง เช่น เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติในพ.ศ. 2516 และรองนายกรัฐมนตรีในสมัยของนายอานันท์ ปันยารชุน เราจึงได้นำชื่อของท่านมาเป็นชื่อห้องประชุมแห่งนี้นั่นเอง

Checkpoint 3 : ห้องสมุดรูฟุส ดี. สมิธ และชำนาญ ยุวบูรณ์

ต่อจากห้องประชุมเกษม สุวรรณกุล เราก็จะพาไปพบกับห้องสมุดรูฟุส ดี. สมิธ และชำนาญ ยุวบูรณ์ ซึ่งได้ตั้งชื่อตามอาจารย์รูฟุส แดเนียล สมิธ อาจารย์ชาวอเมริกัน ซึ่งมาสอนวิชาการเมืองเปรียบเทียบที่คณะของเรา และเป็นผู้วางรากฐานของห้องสมุดแห่งนี้ อีกทั้งยังเป็นผู้ขอบริจาควารสารและสื่อสิ่งพิมพ์ทางสังคมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐอเมริกาให้กับห้องสมุด และอีกท่าน อาจารย์ชำนาญ ยุวบูรณ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนแรก ซึ่งได้มีคุณูปการต่อห้องสมุดแห่งนี้ในการบริจาคทุนจัดสร้างและจัดหาหนังสือเข้าห้องสมุด

ห้องสมุดแห่งนี้ประกอบด้วยพื้นที่ 2 ส่วน คือส่วนของห้องสมุดสังคมศาสตร์ ซึ่งรวมแหล่งข้อมูลทางสังคมศาสตร์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และอีกส่วนที่อยู่ชั้น 4 ก็คือพื้นที่ Co-Working Spaces สำหรับนิสิตในคณะที่ต้องการพักผ่อน ประชุมงาน หรือติวสอบ ซึ่งจะขยายเวลาเปิดให้สำหรับนิสิตคณะรัฐศาสตร์ในช่วงที่เรียกว่า “เข้าเดือน” ซึ่งก็หมายถึงช่วงการสอบกลางภาคและปลายภาคนั่นเอง

Checkpoint 4 : อาคารสำราญราษฎร์บริรักษ์ (ตึก 1)

ต่อจากอาคารเกษม อุทยานินซึ่งเราเชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีแล้ว ทุกคนคงจะคุ้นตากับอาคารสองชั้นขนาดไม่ใหญ่มากที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับอาคารเกษม อุทยานินเป็นอย่างดี ซึ่งอาคารนี้แหละ ก็คืออาคารสำราญราษฎร์บริรักษ์ ซึ่งเดิมเคยเป็นสถานที่จัดการเรียนการสอนของคณะมาตั้งแต่ช่วงที่มีการก่อตั้งคณะรัฐศาสตร์ในปี 2491 โดยชื่ออาคารนี้ตั้งตามอาจารย์รองอำมาตย์โท ขุนสำราญราษฎร์บริรักษ์ (จุ้ย ตัณฑโสภา) อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครองในช่วงแรก

ปัจจุบันอาคารนี้ใช้เป็นสถานที่เรียนของเหล่านิสิตในชั้นบัณฑิตศึกษา (ปริญญาโทและปริญญาเอก) รวมถึงเป็นที่พักของอาจารย์ภาควิชาการปกครอง และสำนักงานของหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (รป.ม.) อีกด้วย

Checkpoint 5 : อาคารวรภักดิ์พิบูลย์ (ตึก 2)

ต่อจากอาคารสำราญราษฎร์บริรักษ์ ก็มีอีกอาคารที่ตั้งอยู่คู่กันและมีรูปทรงใกล้เคียงกันมาก อาคารนี้มีชื่อว่า “อาคารวรภักดิ์พิบูลย์” โดยตั้งชื่อตามศาสตราจารย์พระวรภักดิ์พิบูลย์ (หม่อมหลวงนภา ชุมสาย) ซึ่งเป็นหนึ่งในอาจารย์ประจำภาควิชาการปกครองในยุคแรก อาคารนี้มีหน้าที่การใช้งานที่ใกล้เคียงกับอาคารคู่แฝดอย่างอาคารสำราญราษฎร์บริรักษ์ นั่นคือเป็นอาคารเรียนสำหรับนิสิตในระดับบัณฑิตศึกษา และเป็นห้องพักอาจารย์ในภาควิชาการปกครอง แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปคือ ที่นี่ใช้เป็นอาคารสำนักงานหลักสูตรการพัฒนาระหว่างประเทศ และศูนย์ศึกษาการพัฒนาสังคม

Checkpoint 6 : ตึกกิจกรรมนิสิต

เมื่อเราเดินออกมาจากอาคารสำราญราษฎร์บริรักษ์ โดยเดินตรงมาจากทางเข้า ก็จะพบกับอาคารสำคัญอีกหลังหนึ่ง นั่นคือ “ตึกกิจกรรมนิสิต” ที่นี่เป็นอาคารที่ใช้ในการดำเนินกิจกรรมของสโมสรนิสิตทุกฝ่าย ตั้งแต่กิจกรรมการประชุม พบปะพูดคุย หรือแม้กระทั่งใช้ซ้อมกิจกรรมที่ทางสโมสรนิสิตรัฐศาสตร์จัดขึ้น และที่นี่ยังเป็นสำนักงานของสโมสรนิสิตรัฐศาสตร์อีกด้วย

Checkpoint 7 : ห้องประชุมบุญสนอง บุณโยทยาน เเละ ห้องประชุมวิชิตชัย อมรกุล

สำหรับสถานที่สุดท้ายที่เราจะพาเพื่อน ๆ ทุกคนไปทำความรู้จักก็คือ ห้องประชุมสนอง บุณโยทยาน ซึ่งตั้งอยู่ในตึกกิจกรรมนิสิตนั่นเอง โดยห้องประชุมนี้พึ่งได้ชื่อนี้มาเมื่อปี พ.ศ. 2563 โดยที่ทางสโมสรนิสิตรัฐศาสตร์ในเวลานั้นต้องการจะยกย่องผู้ช่วยศาสตราจารย์ บุญสนอง บุณโยทยาน ซึ่งเป็นเลขาธิการพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย และเป็นหนึ่งในเหยื่อของการกำจัดศัตรูทางการเมืองที่รุนแรงในช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา จึงได้นำเอาชื่อของท่านมาตั้งเป็นชื่อห้องประชุมห้องหนึ่งในตึกกิจกรรมนิสิต และห้องประชุมอีกห้องที่อยู่ติดกันก็ได้ใช้ชื่อของ วิชิตชัย อมรกุล นักกิจกรรมซึ่งถูกทรมานอย่างรุนแรงในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาเพื่อระลึกถึงเช่นกัน

สุดท้ายนี้ หวังว่าเมื่อทุกคนอ่านบทความนี้จบลง เพื่อน ๆ จะรู้จักและทราบที่มาของชื่ออาคารสถานที่ รวมถึงหน้าที่ของอาคารต่าง ๆ ในคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มากขึ้น และสำหรับใครที่อยากรู้ว่า บุคคลต่าง ๆ เหล่านี้มีประวัติความเป็นมาแบบละเอียดอย่างไร ทางฝ่ายวิชาการก็จะทยอยนำประวัติของพวกท่านมาเขียนเล่าตามวาระสำคัญต่าง ๆ เพื่อให้ทุกคนได้รู้จักคณะรัฐศาสตร์และบุคคลสำคัญของพวกเรามากขึ้นครับ

ติดตามฝ่ายวิชาการสโมสรนิสิตรัฐศาสตร์เพิ่มเติมได้ที่

IG: vichakarnsmopolsci

FB: ฝ่ายวิชาการ สโมสรนิสิตรัฐศาสตร์จุฬาฯ

เนื้อหา: อโยธยา น้อยเมืองคุณ

ภาพ: พฤฒิพงศ์ หนูแก้ว

อ้างอิง: http://www.polsci.chula.ac.th/content?pid=37

https://th.m.wikipedia.org/wiki/คณะรัฐศาสตร์_จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

หนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ ศาสตราจารย์เกษม อุทยานิน

https://ruir.lib.ru.ac.th/sites/default/files/KasemSuwannakul.pdf

https://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2535/A/069/1.PDF

https://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2516/A/171/1.PDF

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top